ถ้าบอกว่า พี่เม่นทำอาชีพนายหน้าประกันชีวิตอิสระ หลายคนคงจะงง ๆ ว่าคืออะไร เพราะว่าคนส่วนใหญ่จะรู้จักแต่ ตัวแทนประกันชีวิต แต่ในความเป็นจริงแล้วนายหน้าประกันชีวิตมีมานานแล้วครับ แต่มักจะเป็น นายหน้าประกันชีวิตติดสังกัด ไม่ได้เป็น นายหน้าประกันชีวิตอิสระ แบบเดียวกับทุกวันนี้
ประกันชีวิต สรุปสั้น ๆ แบบที่คนทั่วไปน่าจะเข้าใจได้ คือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกแบบมเพื่อบริหารความเสี่ยงหากเรามีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิต ซึ่งเอามาใช้ได้หลากหลายวัตถุประสงค์ เช่น การออมเงินก้อนเล็กให้เป็นเงินก้อนใหญ่ การเก็บเงินก้อนใหญ่ให้มีค่าผลตอบแทนมากขึ้นและไม่เสี่ยง วางแผนมรดกให้คนข้างหลัง ปกป้องมูลค่าหนี้สินที่มีอยู่ ลดหย่อนภาษี เป็นรายได้วัยเกษียณ ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในวันที่เราจากไป
ประกันวินาศภัย สรุปสั้น ๆ แบบที่คนทั่วไปน่าจะเข้าใจได้ คือประกันทุกชนิดที่ไม่ใช่ประกันชีวิต ออกแบบมาเพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันจาก ความเสียหายในเหตุการณ์บางอย่างที่เราไม่ได้อยากให้เกิด เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันโรคร้ายแรง ประกันรถยนต์ ประกันการเดินทาง ประกันอัคคีภัย ประกันความรับผิดทางวิชาชีพ ประกันสัตว์เลี้ยง
สังเกตุมั้ยครับ ว่ามีประกันวินาศภัยบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตและสุขภาพร่างกาย ของเราด้วย เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันโรคร้ายแรง ประกันชนิดนี้จึงสามารถซื้อได้ทั้งฝั่งประกันชีวิต และฝั่งประกันวินาศภัย
โดยการซื้อในฝั่งประกันชีวิต จะต้องซื้อประกันชีวิตเป็นสัญญาหลักก่อนแล้วจึงจะสามารถซื้อประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และประกันโรคร้ายแรงเป็นสัญญาเพิ่มเติมได้ ส่วนในฝั่งประกันวินาศภัยสามารถซื้อได้เลยโดยไม่ต้องมีสัญญาประกันชีวิตกำกับ
ในธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย จะมีคนอยู่กลุ่มนึงครับที่ทำหน้าที่เหมือนกันคือแนะนำผลิตภัฑณ์ประกันให้กับผู้สนใจ แต่รายละเอียดเนื้องานอาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่องทางที่เค้าทำงานครับ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ก่อนคือ
ตัวแทนประกันชีวิต หรือตัวแทนประกันวินาศภัย คือ บุคคลของบริษัทประกันภัย (ติดสังกัด) ทำหน้าที่ชักชวนให้ผู้สนใจซื้อประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัยกับบริษัทที่ตนสังกัดอยู่
นายหน้าประกันชีวิต หรือนายหน้าประกันวินาศภัย คือ บุคคลอิสระหรือบุคคลที่ติดสังกัดหน่วยงานก็ได้ ทำหน้าที่ชี้ช่องเปรียบเทียบให้ผู้เอาประกันภัยเห็นว่า แผนประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัยของบริษัทไหนมีความเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการใช้งานของผู้เอาประกันรายนั้นมากที่สุด
เริ่มเห็นความแตกต่างในแต่ละช่องทางจำหน่ายของธุรกิจเดียวกันแล้วใช่มั้ยครับ
ธุรกิจประกันชีวิต ก่อนหน้านี้มีช่องทางจำหน่ายอยู่ 2 ช่องทางหลัก ๆ คือ
ขายโดยบริษัทประกันชีวิตเอง ผ่านทาง ตัวแทนประกันชีวิต เป็นช่องทางที่ใหญ่และเติบโตมาก แต่ตัวแทนประกันชีวิตติดสังกัดบริษัทของตนจึงสามารถขายได้เพียงบริษัทเดียว
ขายโดยนายหน้าประกันชีวิตนิติบุคคล ผ่านทาง นายหน้าประกันชีวิต ที่เป็นพนักงานของตนแต่ก็ติดสังกัดนั้น ๆ เช่น ขายผ่านธนาคาร ลิสซิ่งต่าง ๆ สังเกตุว่าเค้าจะแสดงใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตให้เราเห็นด้วย แต่นายหน้าประกันชีวิตเหล่านี้ติดสังกัดหน่วยงานทั้งหมด จึงไม่สามารถใช้ใบอนุญาตของตนเพื่อขายงานส่วนตัวกับช่องทางอื่น ๆ ได้
ก่อนหน้านี้ที่เราที่เรารู้จักแต่ตัวแทนประกันชีวิตแต่ไม่ค่อยรู้จักนายหน้าประกันชีวิตเป็นเพราะว่า ธุรกิจประกันชีวิตเน้นขยายธุรกิจด้วยตัวแทนประกันชีวิตเป็นหลัก ส่วนนายหน้าประกันชีวิตทั้งหมดก็ติดสังกัด วันที่พี่เม่นสอบได้ใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตก็ไม่มีบริษัทประกันชีวิตที่ไหนรับ ถ้าอยากส่งงานกับเค้าต้องถือใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตเท่านั้น
แต่โชคดีของพี่เม่นที่วันนั้นมีโบรคเกอร์ประกันชีวิตกำเนิดขึ้นมา เป็นช่องทางที่ให้นายหน้าประกันชีวิตอิสระสามารถส่งงานได้ แปลว่าเราจะสามารถส่งงานประกันชีวิตได้หลายบริษัท โดยที่ไม่ได้ติดสังกัดบริษัทประกันชีวิต และไม่ได้ติดสังกัดโบรคเกอร์ เป็นงานอิสระที่แท้จริง
ถ้าอยากทำอาชีพนายหน้าประกันชีวิตอิสระ สิ่งที่ต้องรู้คือพวกเราทุกคนจะต้องมีใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต อาชีพนี้ไม่ต้องลงทุนด้วยตัวเงิน เพราะประกันสต๊อกสินค้าไม่ได้ แต่สิ่งที่ต้องลงทุนคือลงทุนกับตัวเองให้ได้มาซึ่งความรู้และให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต
ลงทุนด้วยเวลา ทั้งตัวแทนประกันชีวิตและนายหน้าประกันชีวิตไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตมาก่อนเริ่มธุรกิจ แต่จะต้องเริ่มด้วยการเข้ามาเรียนรู้ว่าประกันชีวิตคืออะไร ใช้งานอย่างไร ระหว่างนั้นเราก็เตรียมตัวสอบใบอนุญาต เพราะฉะนั้นเราจะต้องใช้เวลาเป็นการลงทุน ถ้าไม่แบ่งเวลามาเรียนรู้ก็ทำอาชีพนี้ไม่ได้
ลงทุนด้วยการกระทำ สอดคล้องกับเวลาเลย เราลงทุนด้วยเวลาแล้วต้องลงทุนด้วยการกระทำของเราเพิ่มเติม ทั้งเรียนรู้ทั้งฝึกนำเสนอสิ่งที่ได้เรียนรู้ เพราะอย่าลืมว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่เราต้องนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้สนใจ จึงจำเป็นมาก ๆ ที่เราเรียนรู้แล้วจะต้องฝึกเอาความรู้ที่ได้พรีเซนต์ออกมาให้ได้
ลงทุนด้วยค่าใช่จ่ายใบอนุญาต ถ้าจะบอกว่าไม่มีค่าใช้จ่ายเลยคงจะไม่ใช่มันมีค่าใช้จ่ายในเรื่องใบอนุญาตอยู่ แต่ก็ไม่ได้แพงและคุ้มค่าที่จะลงทุนในส่วนนี้ครับ
การจะมีใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตอิสระจะต้องผ่านคุณสมบัติ 2 ข้อ ไม่มีอะไรก่อนหลัง แนะนำให้ทำพร้อมกันไปเลยเพราะกว่าจะผ่านคุณสมบัติ 1 ข้อก็ต้องใช้เวลาหลักเดือนครับ
การสอบใบอนุญาตจะมีหลายช่องทางครับ ทุกช่องทางกำกับโดย คปภ ทั้งหมดเพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องใช้ผลสอบได้มั้ย คุณภาพเป็นอย่างไร ในบทความนี้พี่เม่นมีแนะนำมาให้ 3 ช่องทาง ทุกช่องทางคิดค่าใช่จ่ายต่อครั้งถ้าสอบไม่ผ่านสมัครใหม่ชำระเงินใหม่
ไม่ว่าจะสอบผ่านช่องทางไหน เราสามารถใช้ผลสอบนี้ได้ระยะเวลา 2 ปีนับตั้งแต่วันสอบผ่าน
สอบกับ คปภ อันนี้จัดโดย คปภ โดยตรงมีการจัดสอบทั้งที่กรุงเทพและต่างจังหวัด แต่ก็ไม่ได้มีทุกจังหวัดครับ ค่าสอบถูกที่สุดคือครั้งละ 200 บาท/ครั้ง
สอบกับสถาบันประกันภัยไทย จะมีทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ถ้าสอบที่กรุงเทพราคา 550 บาท/ครั้ง ถ้าสอบที่ต่างจังหวัดราคา 700 บาท/ครั้ง
สอบกับศรีกรุงโบรคเกอร์ จะมีทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัเช่นเดียวกัน โดยเค้าจะเปิดสอบให้กับสมาชิกของศรีกรุงโบรคเกอร์ที่กระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ค่าสอบ 700 บาท/ครั้ง
ใช้เวลาในการอบรม 10 ชั่วโมง พี่เม่นมีแนะนำช่องทางอบรมให้ 2 ช่องทางครับ
อบรมกับสถาบันประกันภัยไทย โดยปกติจะเป็นการอบรมออนไลน์ ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,600 บาท
อบรมกับศรีกรุงโบรคเกอร์ เปิดอบรมให้กับสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์เป็นแบบออฟไลน์ จัดอบรมที่สำนักงานสาขาทั่วประเทศ ค่าใช้จ่ายสำหรับสมาชิกศรีกรุงโบรคเกอร์ 1,200 บาท
ตามระเบียบของ คปภ นายหน้าประกันวินาศภัย และนายหน้าประกันชีวิตจะต้องมีการอบรมต่ออายุใบอนุญาตทุกปี ให้ครบหลักสูตรตามชั่วโมงที่กำหนด ได้แก่
หลักสูตรต่ออายุใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต ครั้งที่ 1 / หลักสูตรต่ออายุใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย ครั้งที่ 1
หลักสูตรต่ออายุใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต ครั้งที่ 2 / หลักสูตรต่ออายุใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย ครั้งที่ 2
หลักสูตรต่ออายุใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต ครั้งที่ 3 / หลักสูตรต่ออายุใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย ครั้งที่ 3
หลักสูตรต่ออายุตัวแทน/นายหน้า ครั้งที่ 4 (ใช้ชั่วโมงอบรมร่วมกันทั้งตัวแทนประกันชีวิต / นายหน้าประกันชีวิต / ตัวแทนประกันวินนาศภัย / นายหน้าประกันวินาศภัย
ค่าใช้จ่ายในการอบรมเหมือนกันกับตอนอบรมขอรับใบอนุญาตนายหน้า และนี่คือค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เราต้องจ่าย
1 เป็นคนไทย เพราะตัวแทนประกันภัย / นายหน้าประกันภัย เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทยเท่านั้น
2 อายุ 20 ปีขึนไป ทาง คปภ กำหนดคุณสมบัติคนที่จะสอบใบอนุญาตนายหน้าประกันภัยทั้งหมดได้ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ว่าทั้งตัวแทนประกันชีวิต และนายหน้าประกันชีวิต ต้องเริ่มต้นจากการที่เข้ามาเรียนรู้งานก่อนแล้วค่อยสอบใบอนุญาต ดังนั้นใครที่สนใจศึกษาข้อมูลก็ทำได้ตั้งแต่ก่อนอายุ 20 ปี
ส่วนคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น วุฒิการศึกษา เพศ อายุ สุขภาพร่างกายใด ๆ ไม่มีข้อจำกัดเลย ขอเพียงแค่สามารถสื่อสารกับคนอื่นเข้าใจได้เพราะอาชีพนี้ทำงานด้วยการสื่อสาร
ด้วยตัวระบบงานที่ไม่มีการบังคับใด ๆ กับเราทั้งสิ้น ไม่บังคับให้เราเข้าเรียน ไม่บังคับยอดขายของเรา ไม่ต้องรักษายอด ไม่บังคับว่าเราจะต้องมีวิธีการทำงานอย่างไร ทุกอย่างมันอิสระมาก ๆ แต่ความอิสระนี้มันก็จะเป็นข้อเสียที่เราเองจะไม่มียอดขาย เพราะเราไม่ได้ลงมือทำเองครับ เพราะฉะนั้นรายได้จะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ตัวเรากำหนดได้เองล้วน ๆ ครับ
เรียกว่าได้เท่ากันกับระดับตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งก็จะมากน้อยแตกต่างกันตามแพคเกจประกัน แต่ด้วยระบบงานของตัวแทนประกันชีวิตและนายหน้าประกันชีวิตเป็นระบบขยายทีมดังนั้นก็จะมีรายได้จากการขยายทีมด้วยอีกส่วนนึง
นี่คือสิ่งที่คนไม่ชอบงานขายจะไม่อยากเจอ พี่เม่เองก็ไม่อยากเจอ ซึ่งนายหน้าประกันชีวิตอิสระเราส่งงานผ่านโบรคเกอร์ประกันชีวิตครับ ปกติจะไม่มีการบังคับยอดใด ๆ ทั้งสิ้น มีงานก็ได้เงิน ไม่มีงานก็ไม่ได้เงิน
ประกันทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตและประกันวินาศภัย เป็นสินค้าที่จะต้องมีการซื้อซ้ำตลอดเวลา การซื้อซ้ำนี้ละถ้าหากเราวางระบบดี ๆ จะก่อให้เกิดเป็น Passive Income
ประกันชีวิตสามารถสร้าง Passive Income ให้เราได้ด้วยสาเหตุที่ประกันชีวิตจะเป็นสัญญาระยะยาว ที่จะต้องมีการจ่ายเบี้ยประกันทุกปี เช่น 1-5-10-20 ปี ถ้าหากเราสะสมสัญญาที่จะต้องมีการชำระเงิน 20 ปีไว้มาก ๆ แปลว่าตลอด 20 ปีนั้นเราก็จะมีรายได้จากการต่ออายุประกันชีวิตครับ อาชีพนี้คือการค่อย ๆ สะสมกรมธรรม์ ยิ่งสะสมมากยิ่งมี Passive Income มากครับ
จะมีคนอยู่กลุ่มนึงที่สมัครเข้าไปเป็นนายหน้าประกันชีวิตด้วยเหตุผลว่า เห็นความสำคัญของการมีประกันชีวิตและต้องการซื้อประกันใช้เองไม่ได้ต้องการขายประกันชีวิตให้ใคร กระบวนการได้มาซึ่งใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตจะทำให้เค้าเข้าใจผลิตภัณฑ์ที่เค้าเลือกใช้มากขึ้น และสามารถดูแลประกันชีวิตของตนเองและครอบครัวได้ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้ได้หลากหลายบริษัท ซื้อได้ในราคาเดียวกับตัวแทน และที่สำคัญไม่ต้องรักษายอด
ด้วยกิจกรรมของเราที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ปัจจุบันการเป็นนายหน้าประกันชีวิตก็สามารถทำเป็นงานออนไลน์ที่บ้านได้เช่นเดียวกัน บางคนบอกว่าไม่สะดวกที่จะไปบริการลูกค้าที่โรงพยาบาล แต่ก็มีแผนประกันชีวิตมากมายที่ไม่ต้องไปบริการลูกค้าที่โรงพยาบาลให้เราเลือกขาย
ไม่มีงานไหนในโลกนี้ที่มั่นคง 100% ความไม่มั่นคงนี้อาจจะมาจากองค์กรของเรา หรืออาจจะมาจากตัวเราเองก็ได้ เช่น ถ้าพรุ่งนี้เราตื่นเช้าขึ้นมาแล้วลุกขึ้นไปทำงานประจำของเราไม่ได้ เราจะยังคงกอดอาชีพนั้นไว้ได้นานแค่ไหน นายหน้าประกันชีวิตจะเป็นอาชีพเสริม ที่มาช่วยป้องกันความเสี่ยงด้านรายได้ของเราได้อีกช่องทางหนึ่ง เพราะอาชีพนี้ทำที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้
นักศึกษามหาวิทยาลัยมาเกี่ยวอะไรกับอาชีพนายหน้าประกันชีวิต อย่างที่บอกว่าอาชีพนายหน้าประกันชีวิตสามารถเริ่มต้นอย่างจริงจังได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งตรงกันกับกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย ช่วงเวลานี้เค้าจะมีเวลาว่างมากกว่าคนทำงาน ถ้าเค้าใช้เวลาที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ไปศึกษาอาชีพนายหน้าประกันชีวิตเป็นช่องทางสำรองไว้ เมื่ออายุครบ 20 ปีเค้าสามารถประกอบอาชีพนี้เป็นอาชีพสำรองไว้ได้ก่อน หลังจากเรียนจบแล้วค่อยไปตามฝันตามสาขาที่เราเรียนมา
ในเมื่อนายหน้าประกันวินาศภัยมีลูกค้าอยู่ในมืออยู่แล้ว สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตด้วยเราก็สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งหมดให้จบที่จุดเดียวกันได้เลย
ไม่มีเวลาเป็นคำพูดยอดฮิตของคนที่ไม่รู้ แล้วไม่เคยศึกษารายละเอียดแบบลงลึกว่าเค้าทำงานกันอย่างไร เราก็เลยพลาดโอกาสที่จะสร้างรายได้จากการสละเวลาเพียงไม่กี่นาทีในแต่ละวันไป
อาชีพนี้เป็นอาชีพที่เราจะได้เวลาส่วนตัวมากขึ้น แต่ก่อนจะถึงวันที่เราจะได้เวลาส่วนตัว เราจะต้องสละเวลาส่วนตัวก่อน แล้วให้เวลานั้นซื้อเวลาใหม่กลับมา จนถึงจุดนึงเราจะมีเวลาเหลือมากมายที่จะใช้ชีวิตอย่างสโลว์ไลฟ์ทีทุกคนไฝ่ฝันได้
กระบวนการแรกเราจะต้องใช้เวลาที่มีน้อยนิดของเราแลกความรู้มาให้ได้ แล้วความรู้ที่เรามีจะสร้างให้เกิดเป็นรายได้ รายได้บางส่วนจะเป็น Active Income คือเป็นรายได้จากการที่เราลงมือทำเองทั้งหมดถ้าไม่ทำก็ไม่เกิดรายได้ แต่จะมีรายได้อีกบางส่วนที่เกิดจากการที่เราสร้างระบบไว้ในเรื่องการต่ออายุประกันชีวิต แบบที่เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นเองในระบบโดยที่เราไม่ต้องลงมือทำทั้งหมด ซึ่งก็จะกลายเป็น Passive Income และสิ่งนี้จะทำให้เราได้เวลาเพิ่มเข้ามาครับ
1 เรียนรู้เพื่อสอบใบอนุญาต อันนี้เป็นการเรียนพื้นฐานที่อ่านเองได้ ฝึกทำเองได้ สิ่งที่เราได้จากการเตรียมตัวสอบคือ เราจะรู้จักโลกของประกันชีวิตมากขึ้น
2 เรียนรู้จากหลักสูตรอบรมขอรับใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต 10 ชั่วโมง มันมีทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ แต่พี่เม่นจะแนะนำให้เรียนในระบบออฟไลน์มากกว่า เพราะเราจะไม่ได้แค่ความรู้ในวิชาที่อบรม แต่เราจะได้รู้จักคนที่อยู่ในอาชีพเดียวกันเพิ่มเติม เราประกอบอาชีพเดียวกันเราไม่ได้เป็นคู่แข่ง แต่เป็นเพื่อนร่วมอาชีพ และเพื่อนร่วมอาชีพนี่ละครับจะเป็นแหล่งความรู้ชั้นดีของเรา
3 เรียนรู้จากคอร์สอบรมออนไลน์ของโบรคเกอร์ ปกติแล้วโบรคเกอร์เค้าเป็นช่องทางในการส่งงานของเรา แต่เค้าไม่ได้ทำหน้าที่แค่นั้น เค้ายังมีการสอนความรู้ต่าง ๆ ให้กับเราด้วยทั้งความรู้ประกันชีวิตเบื้องต้น แนะนำแพคเกจที่น่าสนใจ มีการจัดวิทยากรจากบริษัทประกันชีวิตมาสอนให้เราโดยตรง หรือมีการจัดกิจกรรมจากบริษัทประกันชีวิตเสริมเข้ามาด้วย
4 สอบถามกับผู้แนะนำธุรกิจและเจ้าหน้าที่ของโบรคเกอร์ ปกติงานตัวแทนประกัน/นายหน้าประกันจะเป็นระบบสร้างทีม จึงต้องมีผู้แนะนำธุรกิจ เค้าจะมีรายได้จากการที่เราทำงานดังนั้นเค้าจึงมีหน้าที่ในการให้คำแนะนำข้อสงสัยต่าง ๆ ของเราด้วยเช่นกัน
5. ดูใน TikTok เชื่อมั้ยว่าปัจจุบันตัวแทนประกันชีวิตเค้ามาทำคลิปให้ความรู้ใน TikTok กันเยอะมาก เพราะนั่นคือหนทางในการสร้างตัวตนและขายประกันออนไลน์ของเค้า เราก็อาศัยช่องทางเหล่านี้ในการเรียนเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ครั้งละ 1-2 นาทีได้
6 เรียนรู้จากหน้างานจริง ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย หรือนายหน้าประกันชีวิต การเรียนรู้ที่สำคัญและมีประสิทธิภาพที่สุดคือ เรียนรู้จากหน้างานจริง ไม่มีอะไรเป็นสูตรสำเร็จทุกเคสที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะมีความแตกต่างกันเสมอ แปลว่าก็จะมีปัญหาให้เราแก้แตกต่างกันด้วย ยิ่งมีเคสผ่านมามากเท่าไหร่ยิ่ง
พี่เม่นขออธิบายแยกออกเป็น 2 ธุรกิจ
ขับเคลื่อนด้วยนายหน้าประกันวินาศภัยเป็นหลักอยู่แล้ว สามารถส่งงานได้ทั้ง 2 ช่องคือ
ส่งตรงกับบริษัทประกันวินาศภัย ซึ่งจะต้องสมัครเป็นนายหน้าของเค้า ต้องมีการค้ำประกันโดยใช้บุคคล หรือค้ำด้วยเงินตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท ค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000-200,000 ต่อบริษัท
ส่งผ่านโบรคเกอร์ประกันภัย ซึ่งจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของโบรคเกอร์ อาจจะมีค่าสมัครหลักร้อย หรือไม่มีค่าสมัครก็ได้
ในต่างประเทศขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนายหน้าประกันชีวิตเป็นหลัก แต่ในประเทศไทยเดิมทีขับเคลื่อนธุรกิจด้วยตัวแทนประกันชีวิต เราจึงไม่ค่อยรู้จักนายหน้าประกันชีวิต แต่ปัจจุบันบริษัทประกันชีวิตเริ่มหันมาสนใจนายหน้าประกันชีวิตมากขึ้น
เมื่อระบบนายหน้าประกันชีวิตเติบโตจะช่วยเร่งพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้ดียิ่งขึ้น เพราะว่านายหน้าจะต้องเอาแผนประกันภัยของแต่ละบริษัทมาเทียบกัน ของใครดีที่สุดก็ขายของคนนั้น เป็นเหตุจำเป็นให้บริษัทประกันชีวิตต้องแข่งขันออกแผนประกันชีวิตที่น่าสนใจออกมาแข่งขัน
การส่งงาน ปัจจุบันนายหน้าประกันชีวิตยังต้องส่งผ่านโบรคเกอร์ประกันชีวิตได้ช่องทางเดียว ซึ่งการรวมพอร์ททั้งหมดไว้ที่เดียวจะทำให้เราบริหารจัดการได้ง่ายกว่า
ในฝั่งของนายหน้าประกันชีวิตจะแตกต่างจากตัวแทนประกันชีวิตตรงจุดนี้
เป็นคนของบริษัทประกันชีวิต หากออกจากบริษัทงานทั้งหมดที่ถืออยู่จะหลุดออกจากมือทันที เพราะว่าเราไม่ได้ทำงานกับเค้าแล้ว
ไม่ได้เป็นคนของบริษัทตั้งแต่แรกไม่ต้องรักษายอดจึงไม่มีการออกจากบริษัท เพราะฉะนั้นงานทุกชิ้นจึงเป็นของเราจนจบความคุ้มครองของกรมธรรม์ ไม่สามารถโอนให้คนอื่นได้แต่สิ่งที่เราต้องทำคือ รักษาใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตไว้ตลอดเวลา
1 เราไม่สามารถขายประกันชีวิตงานใหม่ได้
2 รายได้จากกรมธรรม์เดิมที่จะต้องได้รับจะเก็บไว้ให้ในระบบก่อน จะยังเบิกออกมาไม่ได้
3 สิ่งที่ต้องทำคือ สอบให้ได้ใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตอีกครั้งเพื่อที่จะสามารถเบิกเงินที่ค้างในระบบได้
1 ตลาดแรกที่คนทำอาชีพนี้จะทำคือ ตลาดธรรมชาติของคนรอบตัวครับ อาจจะเป็นครอบครัว ญาติ เพื่อน หรือคนรู้จัก แต่ไม่ต้องไปคะยั้นคะยอขายนะครับ แค่ให้เค้ารู้ว่าสามารถซื้อกับเราได้ก็พอ
2 ตลาดที่ขยายออกจากคนรู้จัก คือ แนะนำบอกต่อกัน หรือคนที่เป็นนายหน้าประกันวินาศภัยอยู่แล้วก็ขยายโอกาสด้วยแพคเกจประกันชีวิตได้ด้วย
3 ช่องทางออนไลน์ ทุกวันนี้เราจะเห็นตัวแทนประกันชีวิตมากมายออกมาให้ความรู้ด้านประกันชีวิตในช่องทางออนไลน์ ช่องทางนี้คนที่เค้าสนใจจะซื้อประกันชีวิตอยู่แล้วเค้าก็จะมาเลือกครับว่าเราตรงจริตกับใครก็ซื้อประกันกับคนนั้น โดยที่เราไม่ต้องไปคะยั้นคะยอขาย
4 ช่องทางระบบ Affiliate เป็นระบบที่เราแชร์ลิ้วค์ Affilate ออกไปทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ให้คนที่เค้าสนใจสามารถเลือกซื้อประกันชีวิตจากระบบได้เอง
1 ขายเองแบบ Offline/Online ก็เป็นเหมือนกับที่ตัวแทนประกันชีวิตเค้าทำกันครับ แต่การส่งใบคำขอเอาประกันชีวิตของนายหน้าประกันชีวิตจะมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับบริษัทประกันชีวิต และแบบประกันชีวิต เช่น
ส่งใบคำขอเอาประกันชีวิตตัวจริง แม้เราจะทำงานออนไลน์ก็ไม่ใช่ปัญหามันหาทางทำได้
ส่งภาพ ใบคำขอเอาประกันชีวิต บางบริษัทบางแบบก็ปรับมาใช้วิธีนี้ จากนั้นก็จะให้ลูกค้ายืนยันตัวตน
ส่งลิ้งค์ ให้ลูกค้าซื้อประกันชีวิตด้วยตนเองกับบริษัทประกันชีวิตโดยตรง ซึ่งจะมีระบบยืนยันตัวตนอยู่แล้ว จากนั้นขอหลักฐานการซื้อประกันจากลูกค้ามายืนยันกับโบรคเกอร์ว่าเป็นงานของเรา
2 ขายผ่านระบบ Affileate อันนี้เป็นตัวอย่างลิ้งค์สำหรับขายประกันชีวิตในระบบ Affilate ครับ
https://share.724.co.th/www/a/sO3gq1Zp/AM00154524
การขายประกันชีวิตในระบบ Affileate จะมี 2 แนวคือ
- สำหรับแผนประกันที่ทางบริษัทประกันชีวิตออกแบบมาให้ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย อันนี้ลูกค้าก็กดลิ้งค์เข้าไปซื้อเองที่หน้าเว็บไซต์ของบริษัทประกันชีวิตเองเลย เหมือนกับที่เราขายเองแต่เราไม่ต้องไปยืนยันแล้วว่านี่คืองานของเรา เพราะลิ้งค์มันระบุแล้วว่าเป็นงานของใคร
- สำหรับแผนประกันที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่อธิบายแผน เช่นเดียวกันลิ้งค์จะระบุได้ว่าเป็นงานของใคร อันนี้เราไม่ได้คุยกับลูกค้าเอง เค้าก็จะให้กรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ ถ้าเจ้าหน้าที่ปิดการขายได้ ทั้งเจ้าหน้าที่และเราซึ่งเป็นนายหน้าก็จะได้ค่าคอมมิชชั่น
(แยกตามผลิตภัณฑ์ประกันภัย)
(แยกตามช่องทางการจำหน่าย)
1 เมื่อถึงวันนึง ร่างกายของเราจะไม่สามารถใช้ทำงานได้อีกแล้วเพราะว่าแรงเราหมด แต่รายจ่ายที่ต้องใช้ยังมีตลอดเวลา ประกันชีวิตและประกันวินาศภัยเป็นสินค้าที่จะสร้างรายได้ให้เราในวัยเกษียณได้ เพราะใช้ประสบการณ์ไม่ต้องใช้แรง
2 ประกันชีวิต / ประกันวินาศภัย เป็นสินค้าที่ต้องมีการซื้อซ้ำและมีการเติบโตตลอดเวลา ในส่วนของคนกลาง (ตัวแทน/นายหน้า) ซึ่งไม่มีต้นทุนขายอย่างไรก็มีแต่กำไรไม่ขาดทุน
3 ปัจจุบันคนเริ่มเข้าใจประกันชีวิตมากขึ้น ว่าประกันชีวิตไม่ได้แค่ซื้อเพื่อใช้นอนโรงพยาบาล แต่มันมีจุดประสงค์อื่น ๆ อีกมากมายที่ใช้ประกันชีวิตมาป้องกันความเสี่ยงนั้น และเริ่มซื้อประกันชีวิตด้วยตนเองมากขึ้น ทั้งผ่านช่องทางนายหน้าประกันชีวิตและผ่านระบบดิจิตอล ซึ่งใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิตสามารถสร้างรายได้ใน 2 ช่องทางนี้ได้
4 ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยกำลังขยายฐานในฝั่ง "นายหน้าประกันชีวิต" คนที่คิดได้ก่อนเริ่มต้นก่อนได้เปรียบกว่าคนที่คิดได้ทีหลัง เพราะธุรกิจนี้อาศัยประสบการณ์เป็นหลัก
5 ต้องใช้เวลาค่อย ๆ สะสมประสบการณ์และฐานลูกค้านานหลายปี ถ้าสะสมให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายได้ก่อนถึงวันที่เราเกษียณ เราก็จะมีรายได้ในวัยเกษียณที่มั่นคง ต่างกับคนที่เพิ่งจะเริ่มทำหลังจากเกษียณแล้วรายได้อาจจะไม่ทันกับค่าใช้จ่าย
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ของอาชีพนายหน้าประกันชีวิตอิสระ หากใครสนใจที่จะทำอาชีพนี้เป็นอาชีพเสริมสอบถามพี่เม่นได้ครับ ยินดีให้คำแนะนำครับ
พี่เม่นนายหน้าประกันภัย
www.srikrung168.com